Peter Sagan (ปีเตอร์ ซากาน) เกิดในปี 1990 ตอนนี้ก็อายุ 22 ปีพอดี เป็นหนึ่งในบรรดาโปรจักรยานที่อายุน้อยที่สุด ซากานมาจากเมือง Zilina ในประเทศสโลวาเกีย ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากประเทศโปแลนด์ เป็นประเทศที่อากาศค่อนข้างจะหนาว ทำให้ซากานเริ่มปั่นจักรยาน Cyclocross ตั้งแต่ยังเล็ก
ซากานเริ่มมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในปี 2007 หลังจากคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งชิงแชมป์เสือภูเขา European Mountain Bike Championship ซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 17 ปี เด็กที่สุดในการแข่งขัน ซากานมีทักษะการปั่นจักรยานเหนือกว่าคนอื่นตั้งแต่ยังเล็ก หลายๆ คนบอกว่าเขาเข้าแข่งขันเสือภูเขาโดยใส่รองเท้าธรรมดา (ไม่ได้ใส่แบบติดคลีท) และครั้งหนึ่งใช้จักรยานแม่บ้านของพี่สาวเข้าแข่งคว้่าแชมป์รายการเสียด้วยซ้ำ!
พออายุได้ 18 ปี ซากานชนะเหรียญเงิน World Cyclocross ระดับเยาวชน และได้อันดับสองในการแข่ง Paris-Roubaix เยาวชน รองจาก Andy Fenn (ปัจจุเป็นโปรบันดาวรุ่งของทีม Omega Pharma-Quickstep) ที่น่าชื่นชมกว่านั้นคือซากานเอาชนะ เป็นแชมป์โลกการแข่งเสือภูเขาระดับเยาวชนใน World Mountainbike Championship
เคล็ดลับความสำเร็จ
ปีเตอร์ ซากาน จัดได้ว่าเป็นนักปั่นระดับแนวหน้าของโลก ด้วยวัยเพียง 23 ปีกับผลงานระดับนี้ อนาคตยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก เมื่อเทียบกับนักปั่นคนอื่นๆ ซากานถือว่าได้เปรียบหลายด้านทั้งทางกายภาพหลายประการ เรามาดูกันครับว่าเคล็ดลับของซากานที่ช่วยให้เขาปั่นได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสปรินต์ ไต่เนินชัน และ time trial ได้ดี มีอะไรบ้าง
1. ลักษณะร่างกาย (Somatic Disposition)
ร่างกายมนุษย์เราสามารถจำแนกได้เป็นสามรูปแบบซึ่งแต่ละแบบก็มีผลต่อการปั่นจักรยานต่างกันดังนี้ครับ
a.) Ectomorphs (ผอม เพรียว) คนที่เกิดมากับร่างกายลักษณะนี้จะเพิ่มน้ำหนักตัวได้ยาก ผอม เพรียว สูงเก้งก้าง ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นนักไต่เขา นักปั่นที่มีร่างกายแบบนี้ก็เช่น Alberto Contador, Andy Schelck, Robert Gesink
b.) Edomorphs (อวบ) คนลักษณะนี้จะมีไขมันและกล้ามเนื้อเยอะ ทำให้ดูตัวใหญ่และน้ำหนักขึ้นได้ง่าย ส่วนใหญ่จะเป็นสปรินเตอร์เช่น Mark Cavendish, Andre Griepel, Marcel Kittel ครับ แน่นอนการที่กล้ามเนื้อและน้ำหนักเยอะก็ช่วยให้มีแรงระเบิดพลังสปรินต์ได้ดีกว่าคนอื่นๆ
c.) Mesomorphs (ล่ำ) ลักษณะนี้จะเป็นคนที่แข็งแรง หุ่นนักกีฬา ล่ำแต่ไม่อ้วน สร้างกล้ามเนื้อได้ง่าย และไม่ผอมแห้งจนเกินไป ซึ่งนักปั่นที่เกิดมากับหุ่นแบบนี้จะมีความถนัดหลากหลายครับ ปีนเขาก็ได้ สปรินต์ก็ได้ ไทม์ ไทรอัลก็ดี ขึ้นอยู่กับว่าตัวนักกีฬาจะเลือกพัฒนาไปด้านไหน นักปั่นหุ่นแบบนี้เช่น Edvald Boassan Hagen, Lance Armstrong, Cadel Evans และ Peter Sagan เป็นเหตุผลว่าทำไมซากานถึงเชี่ยวชาญไปหมดทุกสภาพสนาม[divider] [/divider]
2. ลักษณะกล้ามเนื้อ (Morpholohic Dispositiona)
ร่างกายมนุษย์มีกล้ามเนื้อสองแบบ Slow Twitch (ST) ซึ่งใช้สำหรับการออกกำลังแบบ endurance กล้ามเนื้อ ST จะหดตัวช้าและใช้ได้นานโดยที่ไม่เมื่อยล้า ในขณะที่กล้ามเนื้อแบบ Fast Twitch (FT) ใช้ในการออกแรงเยอะๆ แบบระเบิดพลัง จะอ่อนล้าอย่างรวดเร็วหลังการใช้
คนแต่ละคนจะมีอัตราส่วนกล้ามเนื้อ FT:ST ไม่เท่ากัน พวกสปรินเตอร์ที่เน้นการระเบิดพลังจะมีกล้ามเนื้อ FT มากกว่านักไต่เขา ในขณะที่ Sagan ดูเหมือนจะมีอัตราส่วนกล้ามเนื้อ FT:ST สมดุลพอๆ กันเพราะเขาสามารถสปรินต์ได้ดีพอๆ กับนักสปรินต์ระดับโลกคนอื่น และก็ยังชนะเสตจภูเขาอย่างใน Tour of California ที่สูงกว่า 4000 เมตรเหนือคู่แข่งนักไต่เขาคนอื่นได้ ซึ่งนักปั่นที่มีกล้ามเนื้อสมดุลแบบนี้มีไม่เยอะ อีกคนที่เด่นๆ น่าจะเป็น Edvald Boassan Hagen จากทีม Sky คนนี้ก็ปีนเขาได้ สปรินต์ได้ไม่แพ้กัน
3. ข้อได้เปรียบทางร่างกายและจิตใจ
แพทย์ประจำทีม Cannondale ต้องช๊อคหลังจากตรวจร่างกางกายซากาน เพราะนอกจากร่างกายของซากานสามารถล้างกรดแลคติคในกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะสมเป็นเวลานานเหมือนนักปั่นคนอื่น ซากานสามารถปั่นในระดับ treshold ได้นานกว่าสองนาทีซึ่งปรกติโปรคนอื่นๆ จะปั่น tredshold ได้ไม่เกิน 45-50 วินาที และที่น่าทึ่งที่สุดคือค่า VO2 Max (ค่าอ๊อกซิเจนสูงสุดที่กล้ามเนื้อสามารถเอาไปใช้ได้ในหนึ่งนาที) คนปรกติมี Vo2 Max อยู่ที่ 40ml/kg/min ในขณะที่โปรอาจจะมีประมาณ 70ml/kg/min แต่ซากานมีสูงถึง 83ml/kg/min
การที่ซากานเคยปั่นเสือภูเขาและ cyclocross จนคว้าแชมป์โลกในระดับเยาวชน ช่วยให้เขามีทักษะการบังคับรถที่ดีกว่าคนอื่นครับ ทักษะการบังคับจักรยานและการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนใหญ่จะพัฒนาในตอนเด็กๆ จะเรียนรู้ได้ยากเมื่อร่างกายพัฒนาเต็มที่แล้ว
ท้ายที่สุด ซากานเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี อยู่กับปัจจุบันและเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ดีครับ อ่านจากบทสัมภาษณ์ของเขา ซากานบอกว่าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย และทุ่มเต็มที่กับเป้าหมายในอนาคต วันนี้แพ้วันหน้ายังมีโอกาสชนะอีก เห็นความขี้เล่นได้จากท่าฉลองชัยชนะที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
สรุป
นานๆ ทีเราจะได้เห็นนักปั่นสมบูรณ์แบบที่ทั้งสปรินต์ได้ดีและไต่เขาได้ดีครับ นักปั่นสมัยนี้เลือกเอาดีเฉพาะทางไปเลย ไม่สปรินต์ ก็ไต่เขา หรือ time trial ไม่ค่อยเห็นใครทำได้ทุกอย่างตั้งแต่สมัย Eddy Mercx ซึ่งทำให้การแข่งค่อนข้างจะน่าเบื่่อเพราะเราก็จะเห็นแต่หน้าเดิมๆ ชนะการแข่งแบบเดิมๆ ครับ ซากานพึ่งจะอายุ 23 ปี ยังมีเวลาสั่งสมประสบการณ์อีกมาก ต้องดูกันว่าเขาจะไปได้ถึงไหน แต่เท่าที่ดูผลงานที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าคนนี้แหละดาวดวงใหม่ในวงการครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น